วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

กากเอทานอลหมักด้วยยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ในสูตรอาหารโคนม





ค่าโภชนะของกากมันสำปะหลังจากโรงงานเอทานอล


โปรตีน(%) 7.27 ,ไขมัน(%) 1.07เยื่อใย(%) 35.72,เถ้า(%)11.89,ทราย(%)7.27 แร่ธาตุ(%)4.62
ความเป็นกรด-เบส (pH) 4.17 

การเพิ่มคุณค่ากากมันสำปะหลังโดยการหมักด้วยยีสต์(Saccharomyces cerevisiae)


          ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีการใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการเป็นสารเสริมแหล่งโปรตีนที่ย่อยได้ดี แหล่งของยีสต์ที่นำมาใช้มีทั้งได้มาจากการผลิตยีสต์เพื่อนำตัวยีสต์มาใช้โดยตรงและยีสต์ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการอุตสาหกรรม ยีสต์ที่ผลิตเพื่อนำมาใช้เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ มีการนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆดังนี้
         - ยีสต์มีชีวิต นำมาใช้ในอาหารสัตว์เพื่อเป็นแหล่งของโปรไบโอติค โดยมีคุณสมบัติส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารสัตว์ช่วยทำให้สัตว์มสุขภาพดี
        - เซลล์ยีสต์ เป็นยีสต์ที่ไม่มีชีวิตใช้ในอาหารสัตว์เพื่อเป็นแหล่งของโปรตีนที่สัตว์สามารถย่อยได้ดี สำหรับยีสต์ไม่ว่าจะเป็นยีสต์ที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตจะมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบอยู่ประมาณ 40-50% โดยน้ำหนักแห้ง โปรตีนจากยีสต์นี้เรียกว่า Single Cell Protien นอกจากโปรตีนแล้ว ยีสต์ยังประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต กรดนิวคลีอิค เถ้า ไขมัน และ วิตามินหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินบีรวม
        - ยีสต์เอกซ์แทรค เป็นสารที่ได้จากการสกัดของเหลวในเซลล์ยีสต์ มีลักษณะเป็นของเหลวสีน้ำตาล มีสารส่วนประกอบหลักคือ โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ ใช้เป็นสารปรุงแต่งกลิ่นรสอาหารเป็นสารเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการในอาหารและเป็นวัตถุดิบอาหารเสริมสุขภาพ
        - ผนังเซลล์ยีสต์ ประกอบด้วยสารเบต้า-กลูแคน มีคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกันเซลล์ไมโคฟาจให้อยู่ตลอดเวลา ทำให้สัตว์มีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี ลดการใช้ยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้สารเบต้า-กลูแคนยังนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง โดยไปเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเซลล์คอลลาเจนของผิวหนัง ลดการเกิดอนุมูลอิสระ

        ยีสต์ (Saccharomyces cerevisiae) เป็นยีสต์ที่พบได้ในธรรมชาติโดยเป็นจุลินทรีย์พวก ยูคาริโอต เซลล์ส่วนใหญ่มีรูปร่างกลม หรือรี สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศโดยการแตกหนอ S. cerevisiae เป็นจุลินทรีย์หลักที่ใช้ในการผลิต เอทานอลในระดับอุตสาหกรรมทั้งภายใน และต่างประเทศ ยีสต์ และผลิตภัณยีสต์มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในโภชนาการสัตว์เคี้ยวเอื้อง (Sakine et. al, 2011) เพื่อปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในกระเพราะรูเมนให้ดีขึ้นและส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง ดังนั้นยีสต์ (Saccharomyces cerevisiae) จึงเป็นที่นิยมในการใช้เป็นอาหารเสริมในสัตว์เคี้ยวเอื้อง ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่มีศักยภาพสำหรับใช้เป็นหล่งอาหารโปรตีนคุณภาพสูง เนื่องจากมีปริมาณโปรตีนสูงและมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน 



วัสดุและวิธีการทำ


วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้
1.ยีสต์Saccharoyces cerevisiae 500 กรัม
2.น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
3.กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม
4.ปุ๋ยยูเรีย 10 กิโลกรัม
5.ซิลิเนียมและวิตามินรวม 1 ถุง (เเล้วแต่ยี่ห้อ อัตราส่วน 1 : 1000)
6.กากมันสดและหรือกากมันเอทานอล 1,000 กิโลกรัม
7.ถังน้ำ 200 ลิตร
8.ปั๊มอ๊อกซิเจน
9.บ่อซีเมนต์
10.พลาสติกคลุมบ่อซีเมนต์
11.น้ำสะอาด

วิธีทำ
1.ทำหัวเชื้อยีสต์ นำถังใส่น้ำ 20 ลิตร ใส่น้ำตาลทรายลงไป 1 กิโลกรัม คนละลายให้เข้ากัน จากนั้นใส่ยีสต์ขนมปัง 500 กรัม คนละลายให้เข้ากัน
2.ถังใส่น้ำลงไป 50 ลิตร ใส่กากน้ำตาลลงไป 10 กิโลกรัม ซิลิเนียม 45 กรัม และปุ๋ยยูเรีย 10 กิโลกรัม จากนั้นคนละลายให้เข้ากัน
3.น้ำเอาหัวเชื้อที่ผสมไว้เเล้ว(ข้อ1)มา เทลงผสมกับข้อ 2 คนให้เข้ากันและเปิดปั๊มออกซิเจน ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเปิดทิ้งไว้ 30 นาที
3.นำยีสต์ที่ได้บ่มไว้ 30 นาที มาคลุกเคล้ากับกากมันสดและหรือกากเอทานอล จำนวน 1,000 กิโลกรัม หมักบ่มไว้ในบ่อซีเมนต์ใช้พลาสติกปิดคลุมให้มิดชิด เป็นเวลา 15 วัน เเล้วจึงนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ เราจะได้โปรตีนจากการหมัก 12-15%(หมัก15วัน),20-25%(หมัก21วัน)



ตารางที่ 1 คุณค่าโภชนะของกากมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลที่หมักด้วยจุลินทรีย์ชนิดต่างๆ

       ค่าโภชนะของกากมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลที่หมักด้วยจุลินทรีย์พบว่ากากมันสำปะหลังจากโรงงานเอทานอลที่หมักด้วยจุลินทรีย์มีการสูญเสียวัตถุแห้ง เกิดจากการที่เชื้อจุลินทรีย์มีการใช้แหล่งคาร์บอนและไนโตรเจนภายในกากมันสำปะหลังจากโรงงานเอทานอลไปเป็นอาหารเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต กากมันสำปะหลังจากโรงงานเอทานอลที่หมักด้วยจุลินทรีย์มีโปรตีนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีปริมาณโปรตีนอยู่ในช่วง 12.26 – 18.40 เปอร์เซ็นต์


ตารางที่ 2 การย่อยได้ของกากมันสำปะหลังจากกรผลิตเอทานอลที่หมักด้วยจุลินทรีย์ชนิดต่างๆ

      การหมักกากมันสำปะหลังจากโรงงานผลิตเอทานอลด้วยจุลินทรีย์ต่างๆสามารถเพิ่มปริมาณการย่อยได้วัตถุแห้งและอินทรียวัตถุและสามารถทำให้ค่าการย่อยได้โปรตีนเพิ่มขึ้น (ประพัฒน์2559)


ประโยชน์ของกากมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลที่หมักด้วยยีสต์ ในอาหารโคนม


1. เพิ่มการย่อยได้ของโปรตีนดิบ CP และ NDF ให้ดีขึ้น 
2.สามารถเพิ่มการกินได้ และ อัตราการการเจริญเติบโต
3.เพิ่มผลผลิตน้ำนมและองค์ประกอบของน้ำนม
          




จัดทำโดย 
        นางสาวเกวลี ใจพินิจ             B5850945 (ผู้มีความสำเร็จ)
        นางสาวปวิตรา ปิยะไพร         B5851027 (บริสุทธิ์)
        นางสาวอริสรา ชัยวิชา           B5851355 (เป็นใหญ่เหนือศัครู)
        นางสาวณัฏฐณิชา จันไทย     B5853649 (ผู้ทรงไว้ซึ่งความฉลาดและบริสุทธิ์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กากเอทานอลหมักด้วยยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ในสูตรอาหารโคนม

ค่าโภชนะของกากมันสำปะหลังจากโรงงานเอทานอล โปรตีน(%) 7. 27 , ไขมัน(%) 1.07 ,  เยื่อใย(%) 35.72 , เถ้า(%)11.89 , ทราย...